เชฟโรเลต กลุ่มลูกค้าเชฟวี่ ทดสอบความแกร่งแชสซีส์ ร่วมพัฒนาเทรลเบลเซอร์ รองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ
ข่าวทั้งหมด : ��������������������� / เชฟโรเลต กลุ่มลูกค้าเชฟวี่ ทดสอบความแกร่งแชสซีส์ ร่วมพัฒนาเทรลเบลเซอร์ รองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ
เชฟโรเลต กลุ่มลูกค้าเชฟวี่ ทดสอบความแกร่งแชสซีส์ ร่วมพัฒนาเทรลเบลเซอร์ รองรับการขับขี่ทุกรูปแบบ
กรุงเทพฯ
–
เดอะ สปิริต ออฟ เทรลเบลเซอร์ คลับ กลุ่มลูกค้าเชฟโรเลต
เทรลเบลเซอร์ ทำการทดสอบสมรรถนะของเทรลเบลเซอร์
รถเอสยูวีพรีเมียมสไตล์อเมริกันทั้งบนถนนทั่วไปและเส้นทางออฟโรดในอำเภอทองผาภูมิ
จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในพื้นที่ที่มีเส้นทางออฟโรดที่ครบครันทุกรูปแบบ
ดึงดูดคนรักรถเอสยูวีให้ได้ฝึกปรือทักษะการขับขี่แบบสมบุกสมบัน อาทิ
การไต่ขึ้นทางลาดชันและการบุกตะลุยแอ่งโคลน
เพื่อเข้าไปสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงามของน้ำตก ผืนป่าสีเขียว
และพื้นที่ตั้งแคมป์อันสงบร่มรื่น
เทรลเบลเซอร์ รุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทายและยากลำบาก โดยทีมวิศวกรของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ในประเทศไทย บราซิล ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันปรับปรุงแชสซีส์ใหม่ และทดสอบความแข็งแกร่งทนทานของรถเอสยูวีพรีเมียมสไตล์อเมริกันรุ่นนี้ตลอดระยะเวลาการพัฒนาและการประเมินคุณภาพกว่า 18 เดือนเต็ม และได้ทำการทดสอบแบบเดียวกันนี้กับรถเอสยูวีและรถกระบะของเชฟโรเลตทุกรุ่น เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารถยนต์ของเชฟโรเลตมีความสะดวกสบายในการขับขี่ การควบคุมที่ยอดเยี่ยม และเสถียรภาพอันเหนือชั้น เพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
“การลุยทางออฟโรดที่ยากลำบากที่สุด
ทั้งการขับในป่าเขา ข้ามแม่น้ำ และฝ่าลำธารต่างๆ คือเป้าหมายของเราในครั้งนี้”
นายนิติพันธุ์ ชื่นชอบ ประธานกลุ่มสปิริต ออฟ เทรลเบลเซอร์ คลับ
ซึ่งปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรอุตสาหการ ในอำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม กล่าว “ผมได้ทำการสำรวจและกำหนดเส้นทางการขับขี่ในอำเภอทองผาภูมิ
เพื่อให้สามารถทดสอบสมรรถนะของรถเทรลเบลเซอร์ได้อย่างเต็มที่
ซึ่งสมาชิกคลับของเราทุกคนต่างก็ประทับใจในรถรุ่นนี้ที่สามารถรองรับการขับขี่หลากหลายรูปแบบในทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี”
เทรลเบลเซอร์เป็นรถเอสยูวีรุ่นล่าสุดของเชฟโรเลต ที่ได้รับการผลิตภายใต้ความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนานจากการพัฒนารถอเนกประสงค์ ซึ่งสั่งสมมาตั้งแต่การเปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นแรกของแบรนด์ หรือ ซับเบอร์แบน แคร์รี่ออล ในปี พ.ศ. 2478 ซึ่งเป็นชื่อรุ่นที่ทำตลาดได้ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศสหรัฐอเมริกา (ปัจจุบันใช้ชื่อซับเบอร์แบน)
แม้ว่าเจ้าของรถเอสยูวีจะไม่ได้ขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเป็นประจำ
แต่บ่อยครั้งที่ต้องขับขี่บนถนนที่มีพื้นผิวขรุขระ ไม่ราบเรียบ
หรือเป็นหลุมเป็นบ่อ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ยาง ล้อ และชิ้นส่วนช่วงล่าง
รวมถึงทำให้ตัวรถเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร
เพื่อสร้างความมั่นใจในศักยภาพของเทรลเบลเซอร์ซึ่งรองรับการขับขี่ได้ในทุกสถานการณ์ รถเอสยูวีรุ่นนี้จึงได้รับการทดสอบในสนามทดสอบสมรรถนะของจีเอ็มที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อหลากหลายขนาด ที่สามารถสร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ขับขี่ได้ไปจนถึงขั้นสั่นสะเทือนแชสซีส์ พื้นผิวถนนที่ขรุขระนี้ ช่วยให้วิศวกรพัฒนาการป้องกันแรงสะเทือนที่เกิดกับตัวรถได้ดียิ่งขึ้น และปรับปรุงช่วงล่างเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารมากที่สุด
หลุมบ่อในสนามทดสอบช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญจำลองสถานการณ์การทำงานของตัวรถเมื่อตกหลุมบนถนนทั่วไป จีเอ็มรวบรวมข้อมูลดังกล่าวมาตลอด 40 ปี และนำมาใช้ในการออกแบบและพัฒนาระบบวิศวกรรมของรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อให้ดูดซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น สนามทดสอบดังกล่าวมีพื้นผิวถนนหลากหลายรูปแบบ ที่สามารถจำลองสถานการณ์การใช้งานจริงบนถนนทั่วโลก การทดสอบความทนทานขั้นสูงเช่นนี้ จึงไม่ได้จำกัดอยู่ที่การขับขี่บนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่ก่อสร้างและสภาพแวดล้อมแบบออฟโรดอื่นๆ อีกด้วย
“รถยนต์เชฟโรเลตทุกรุ่นทั่วโลกได้ผ่านการทดสอบความทนทานดังกล่าว
โดยเราออกแบบรถยนต์เชฟโรเลตให้สามารถรองรับแรงกระแทกเมื่อขับขี่ตกหลุมบนท้องถนนได้อย่างไร้กังวล”
นายชัชวาล จันทเขต ผู้อำนวยการทั่วไปฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ จีเอ็ม
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว “ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการทดสอบขับขี่บนสนามดังกล่าว
ช่วยให้เราสามารถรวบรวมประเภทของแรงกระแทกต่างๆ
ที่เกิดขึ้นระหว่างชิ้นส่วนที่เชื่อมต่อกัน ก่อนนำมาประเมินและฟป้องกันฟปัญหาที่อาจเกิดขึ้น”
จีเอ็มจึงได้พัฒนาเทรลเบลเซอร์ใหม่
ให้มีแชสซีส์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมปรับปรุงช่วงล่างใหม่ เสริมโช้คอัพชุดใหม่
และแท่นรองตัวถังใหม่ รวมถึงเหล็กกันโคลงที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
เพื่อลดแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากการกระแทกอย่างกะทันหันและหนักหน่วง
โครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งยังช่วยให้วิศวกรปรับแต่งช่วงล่างได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้น
และลดแรงกระแทกจากการตกหลุมตามถนนขนาดเล็กและขนาดกลาง
เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและควบคุมได้ดั่งใจยิ่งกว่าที่เคยเป็น
วิศวกรของจีเอ็มทดสอบความทนทานของเทรลเบลเซอร์ด้วยการจำลองการใช้งานตลอดวงจรชีวิตของรถเอสยูวีรุ่นนี้
และสร้างความมั่นใจว่าเทรลเบลเซอร์จะมีมาตรฐานสูงสุด
ก่อนที่ฝ่ายวิศวกรจะอนุมัติให้ขึ้นสายการผลิตต่อไป
ทดสอบสมรรถนะถึงขีดสุด
–
ทีมวิศวกรขับขี่รถยนต์อย่างหนักหน่วงกว่าปกติเพื่อจำลองการใช้งานตลอดช่วงอายุของตัวรถ
ทดสอบขับบนสภาพพื้นถนนที่หลากหลาย
–
ด้วยการขับวนบนพื้นหินที่มีรูปร่างเหมือนปีรามิดยอดตัด
ขับบนถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ผ่านเนินลูกคลื่น ร่องถนน เนินหลังเต่า
และพื้นผิวถนนแบบอื่นๆ เป็นเวลาหลายวัน เพื่อทดสอบชิ้นส่วนต่างๆ ของรถ
อุโมงค์ปรับความชื้น – ทุกชิ้นส่วนของรถจะถูกทำให้เปียกชุ่มในอุโมงค์ปรับความชื้น ซึ่งมุ่งทดสอบความทนทานต่อการกัดกร่อนเป็นระยะเวลาหลายชั่วโมงท่ามกลางอุณหภูมิและความชื้นสูง
อุโมงค์ลมปรับสภาพอากาศ
–
อุโมงค์ดังกล่าวสามารถจำลองสถานการณ์และสร้างสภาพแวดล้อมได้ตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นไปจนถึงพายุหิมะ
อุณหภูมิสามารถไต่ระดับสูงขึ้นได้ถึง 60 องศาเซลเซียสอย่างง่ายดาย
ด้วยการใช้แสงอาทิตย์จำลองที่มีกำลังไฟฟ้ากว่า 1,155 วัตต์ต่อตารางเมตร
และสามารถลดอุณหภูมิลงจนเย็นจัดได้ต่ำกว่า -40 องศาเซลเซียส พร้อมความเร็วลมสูงสุดที่
241 กม./ชม.
การทดสอบบนไดนาโมมิเตอร์
–
การทดสอบประเภทนี้สามารถจำลองการขับขี่เมื่อต้องไต่ขึ้นทางลาดชันที่ต้องรับภาระน้ำหนักในสถานการณ์จริง
ด้วยการเพิ่มค่าแรงต้านบนแท่นไดนาโนมิเตอร์
เครื่องมือประเภทนี้ยังสามารถจำลองการขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.
อีกด้วย
การทดสอบในร่มมีความสำคัญเนื่องจากสามารถดำเนินการได้ตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศภายนอก
อีกทั้งยังสามารถจำลองสถานการณ์ซ้ำได้หลายครั้ง
ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการจราจรบนถนนสาธารณะ อย่างไรก็ตาม
การทดสอบบนถนนทั่วไปภายใต้สภาพแวดล้อมจริงก็ยังมีความจำเป็น
และเทรลเบลเซอร์เองก็ได้ผ่านการทดสอบหลากหลายรูปแบบบนถนนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึงประเทศไทย ท่ามกลางสภาพอากาศในช่วงเดือนที่ร้อนที่สุดของปี
เมื่อใกล้ช่วงเปิดตัว
ทีมวิศวกรของจีเอ็มทำการทดสอบครั้งสุดท้ายเพื่อให้มั่นใจว่า ทุกระบบในตัวรถทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
และทุกฟังก์ชั่นตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี
ก่อนที่ฝ่ายวิศวกรรมจะอนุมัติเพื่อทำการผลิตและจัดจำหน่ายต่อไป
“ด้วยการนำรถยนต์เชฟโรเลตเข้ารับการทดสอบที่หนักหน่วง เพื่อสร้างความมั่นใจในความแข็งแกร่งทนทานของผลิตภัณฑ์และความไว้วางใจในหมู่ลูกค้าเชฟโรเลตในประเทศไทยและทั่วโลก สิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดมั่น คือความปลอดภัยและความพึงพอใจของลูกค้า เราจึงพร้อมทำการทดสอบที่ท้าทายทุกขีดจำกัดของการขับขี่เพื่อส่งมอบสิ่งเหล่านั้นให้กับลูกค้าของเรา” นายชัชวาล สรุป
ข้อมูลการทดสอบและรายละเอียดมาจากรายงานของ
เชฟโรเลต ประเทศไทย
อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com
ขอขอบคุณ : เชฟโรเลต ประเทศไทย
แสดงความคิดเห็น
คำค้นหาทั่วไป
กีฬาแต้มเท่าผีไฮไลท์ พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกแมนเชสเตอร์ เอฟเวอร์ตันบาร์เซโลน่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษอังกฤษพรีเมียร์ลีกคูตี้ชูมาเน่น้องเมยโดนซ้อมแฉ “น้องเมย”เตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ มารีญาพันชีวิตสุดมันส์ วิ่งนักวิ่งไทย-เทศสิงห์เติมจี๊ด!ร่วมวิ่งแอดเวนเจอร์ ข่าวกีฬาย้อนหลังรอบโลกกีฬาก้าวสู่ปีที่ 7สุโขทัยมาราธอน 2017′วิ่งเพื่อมรดกโลกศึกวอลเลย์บอลปลื้มจิตร์-นุศราโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตกีฬาโปรอาร์มธงชัย ใจดี โชคชัยจีทีเอ็มมอเตอร์สปอร์ตไทยToyota Motorsportสายสปีดโคราชพิสูจน์ความเร็วซิ่งกระกาย สุดมันส์กลางเชียงใหม่Super Car GTMโตโยต้า ทีมไทยแลนด์เรซที่ 3 Division 1รถยนต์โตโยต้า86ศึก RAATศึกซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2017ซูเปอร์คาร์จีทีเอ็มสนามช้างไทยแลนด์ เรซซิ่งนักบิดมวยไชยาฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2017ถ่ายทอดสดฟุตบอลผลบอลสดเอเอฟซี ชิงชนะเลิศฟุตบอลสถิติเมืองทองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเจลีกคู่แข่ง ACLเจลีกคัพข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตารางคะแนนกีฬาที่น่าสนใจ